ข่าวฟุตบอลไทย 4 สิ่งที่เห็นจากขอบสนามทีมชาติไทย แพ้ จีน แบบน่าเสียดาย
ข่าวฟุตบอลไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคน 2562 ที่ผ่านมาเราได้พบกันกับประเทศจีน ซึ่งเกิดการวิเคราะห์ว่าเพราะอะไรเราถึงแพ้ วันนี้มีแนวคิดมาให้ทั้งมหด 4 ข้อลองวิเคระห์ไปพร้อมกับ ข่าว Vegus ข่าวฟุตบอลสุดมัน ได้เลย
การเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ในเอเชียนคัพ สิ้นสุด ลงเรียบร้อย หลังจากที่ ทัพช้างศึก พ่ายให้กับ ทัพมังกร ไปแบบน่าเสียดายอย่างยิ่ง 1-2 ทำให้ จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น “ชุ ปรัชญา” ทีมข่าวสยามสปอร์ตที่เกาะติดอยู่ขอบสนาม ฮัซซา บิน ซาเยด สเตเดี้ยม จะมาวิเคราะห์ 5 สิ่งที่ในเกมนี้ ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และ เราต้องนำสิ่งที่ผิดพลาด ประสบการณ์แบบนี้ กลับมาพัฒนาอะไรอีกบ้าง ในอีก 4 ปีข้างหน้า
1. ขาดแนวรับตัวหลัก ทำให้ไทย เสียสมดุล
การขาด 2 แข้งแนวรับ ติดโทษแบน อย่าง อดิศร พรหมรักษ์ และ สุพรรณ ทองสงค์ นั้นส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจาก ทั้ง 2 คนกำลังเล่นด้วยความมั่นใจ และ เข้าแทคติกเป็นอย่างมาก ซึ่งหายไปของทั้งสองคน ความสมดุลต่างๆ อาจจะตกลงบ้าง เพราะ คนที่ลงมาทดแทน อย่าง มิก้า ชูนวลศรี รวมถึง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว แม้ว่า จะทำได้ดีระดับนึง แต่ ด้วยสถานการณ์เกมที่ถูกกดดัน ทำให้บางชอต มีข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ และ การพลาดเล็กๆ น้อยๆ นี่เองที่ ทีมระดับอย่างจีน จัดการเราได้ทันที

2. กึ๋นของโค้ช ที่แตกต่าง
ยอมรับว่า โค้ชคนภูธร ที่ชื่อ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สามารถต่อกรกับ มาร์เซโล่ ลิปปี้ ดีกรีแชมป์ระดับโลก ได้เท่านี้ก็ถือว่าสุดยอดสุดๆ แล้ว เพราะ ทำให้ แข้งจีน ถึงขั้นปั่นป่วนได้ในครึ่งแรก แต่ด้วยประสบการณ์ การเปลี่ยนตัว หรือ การวางหมากในครึ่งหลัง เรื่องจุดนี้ ประสบการณ์ของทั้ง 2 คนต่างกันชัดเจน ซึ่งจุดนี้ โค้ชโต่ย รู้อยู่แล้วว่าจีน ต้องเล่นมุกเดิม คือโยนบอมบ์ เข้าใส่ แต่ด้วยการเตรียมทีมที่น้อย และ เพิ่งได้มารับงานแบบกระทันหัน นั้น มันเลยทำให้ โค้ชโต่ย ไม่ได้คิดหมากแก้เกมไว้ จุดนี้ถือว่าได้ประสบการณ์มากเลยทีเดียว
3. ครึ่งแรกพระเอก ครึ่งหลังผิดฟอร์
จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อ 2 เพราะด้วย ด้วยกึ๋นของ ลิปปี้ กลับมาครึ่งหลัง เขาสั่งให้ลูกทีม เร่งเกม และ ปิดทาง โต้กลับของไทยมากขึ้นเกมรุก จริงๆ ไทยเหลือแค่ เจ ชนาธิป และ มุ้ย ธีรศิลป์ ส่วน อาร์ม ศุภชัย ต้องบอกว่า ดาวเตะวัย 20 ปี ใช้พลังงานไปเยอะมากในครึ่งแรก ครึ่งหลังเรี่ยวแรงดูดร็อปลงไป เพราะเจ้าอาร์ม เป็นแข้งมีปัญหาเรื่องความฟิตมักเล่นไม่ครบ 90 นาที ทำให้ โค้ชโต่ย ต้องเลือกคนที่สดกว่า ลงมาช่วยทั้งรับ และ รุก นั่นคือ ทู ชนานันท์ แต่ด้วยการขาดเกมไปนานกว่าเพื่อน ลงมาแล้ว ดูจะเกร็งๆ ยืนตำแหน่งผิด วิ่งเก็บบอลแดนบนไม่ได้ทำให้ กลายเป็น สูตรเปลี่ยนตัวผิดแผนไป แต่ก็ต้องชมจีน ที่แก้เกมมาดีทุกอย่าง ลิปปี้ อ่านขาดหมดว่า ต้องรุกหนักตั้งแต่ตอนไหน และ ผ่อนมาเล่นรับ ไม่เสียประตูให้ไทยอีก แล้ว เมื่อไร ทำให้ ครึ่งหลัง เป็นหนังคนละม้วน
4.สมาธิ ในเกมรับ เป็นปัญหาทุกชุด
เรื่องนี้ เป็นปัญหาของ ทีมชาติไทย ทุกชุดจริงๆ ยิ่งได้มานั่งดูขอบสนามจะเห็นชัดเจนทุกมุม พอเวลาเจอคู่แข่ง ที่โยนเข้าใส่ แบบทั้งลักษณะ เรียด โด่ง ลูกตักข้ามหัวแนวรับ เราหาวิธีจัดการไม่ได้เลย แล้ว ยิ่งพอเวลาเราเคลียร์บอล และ เก็บบอลจังหวะ 2 ได้นั้น คนที่ได้บอลมักจะโดดเดียว โดนกดดัน ทำให้ต้องมองขึ้นหน้าและ สาดโด่งไปให้ไกลๆ อย่างเดียว ไม่มีเพื่อนๆ หรือ คนอื่นๆ ขยับช่อง มาสอดรับบอลให้เลย ยิ่งเตะ ยิ่งเหมือนติดกำแพง จุดนี้เอง ที่ทีมระดับเอเชีย อย่างจีน นั้น เขารออยู่แล้ว จุดนี้ เห็นกันบ่อยๆ ยามที่เราเล่นในเวทีใหญ่ การฝึกผนสำคัญ การอ่านจังหวะบอล รวมถึง คนที่ไม่มีบอล ขยับหาช่องเพื่อน ก็สำคัญ เรื่องนี้ ต้องฝึกฝน และ ลงรายละเอียด นำมาปรับพัฒนาบอลไทย เชื่อเลยเราทำได้
ข่าวดีๆจาก SIAMSPORT ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ